แนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ คัดมาเฉพาะให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ครับ
- ...ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาทุกๆ คน จึงต้องถือว่า ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ ในอันที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้ เพราะถ้าปฏิบัตให้ผิดพลาดบกพร่องไปประการใดๆ ผลรายอาจเกิดขึ้นแก่ส่วนรวมและประเทศชาติได้มากมาย...
- ...คนที่จะใช้วิชาได้ดีนั้น ประการแรก จะต้องรู้วิชานั้นอย่างแจ่มแจ้งจัดเจนและทั่วถึง ทั้งในหลักใหญ่ในรายละเอียด ทั้งในส่วนที่เป็นเหตุ ทั้งในส่วนที่เป็นผล ประการที่สอง การงานที่ทำจะต้องเป็นงานสร้างสรรค์ ไม่ใช่งานที่บ่อนเบียนทำลายไร้ประโยชน์ ประการที่สาม ผู้ที่ทำจะต้องรู้ลักษณะงานโดยถ่องแท้ โดยเฉพาะในจุดประสงค์ขอบเขต และวิธีปฏิบัติ ประการที่สี่ จะต้องมีความตั้งใจที่แน่วแน่ และมีความพรักพร้อม ที่จะทำให้สำเร็จประโยชน์ขึ้นมา...
- ...กล่าวอย่างสั้นที่สุด ก็คือการ "ให้คนได้เรียนดี"...ข้อแรกจะต้องสอนให้มีวิชาการที่ดี ที่ถูกต้องแน่นแฟ้น ให้มีความสามารถและมีหลักการในการปฏิบัติ ข้อสอง ต้องฝึกหัดอบรมจิตใจและความประพฤติปฏิบัติ ให้รู้เหตุผลและความรับผิดชอบชั่วดี เพื่อไม่ให้นำความรู้ไปใช้ในการเบียดเบียนกัน ข้อสาม ต้องมีกำลังและสุขภาพสมบูรณ์ทั้งทางกายทางใจ...
- ...โรงเรียนนั้นมีหน้าที่สำหรับอุปการะและอุ้มชูผู้ที่ยังเยาว์วัย ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ...
- ...เรื่องโรงเรียนนี้ก็ต้องให้ข้อสังเกตว่า เครื่องอุปกรณ์ทั้งหลาย จะเป็นอาคารเรียนก็ตาม หรืออุปกรณ์การศึกษา ตลอดจนครูอาจารย์เจ้าหน้าที่ก็ตาม มีมากหลายครบถ้วน การที่มีทุกสิ่งทุกอย่างครบถ้วนนี้ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่ศึกษาจะได้รับผลดี...การที่มีอุปกรณ์มากอาจทำให้ทั้งนักเรียนทั้งครู ขี้เกียจก็ได้ แต่ว่าถ้าทั้งอาจารย์ ครู และนักเรียนตั้งใจจริงๆ...อุปกรณ์ต่างๆ เป็นเครื่องช่วยทั้งนั้น แต่บางทีอุปกรณ์ทำให้ไม่มีความคิด จึง่ขอร้องให้ทั้งครูทั้งนักเรียนมีความคิด มีความเข้าใจว่า คนเราไม่ใช่คนอื่นสร้างให้ แต่คนต้องสร้างตนเอง...
- ...การศึกษานั้นเป็นเรื่องของทุกคน และไม่ใช่ว่าเฉพาะในระยะหนึ่ง เป็นหน้าที่โดยตรงในระยะเดียว ไม่ใช่อย่างนั้น ตั้งแต่เกิดมาก็ต้องศึกษา เติบโตขึ้นมาก็ต้องศึกษา จนกระทั่งถึงขั้นที่เรียกว่าอุดมศึกษา อย่างที่ท่านทั้งหลายกำลังศึกษาอยู่ หมายความว่า การศึกษาที่ครบถ้วน ที่อุดมที่บริบูรณ์ แต่ต่อไปเมื่อออกไปทำหน้าที่การงานก็ต้องศึกษาต่อไปเหมือนกัน มิฉะนั้นคนเราก็อยู่ไม่ได้ แม้จบปริญญาเอกแล้วก็ต้องศึกษาต่อไปตลอด หมายความว่าการศึกษา ไม่มีที่สิ้นสุด...
- ...เพื่อให้การศึกษาดำเนินไปด้วยดี จะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ต้องมีโรงเรียนและเครื่องอุปกรณ์ที่เหมาะสม ต้องมีครูที่จะสอนจะถ่ายทอดวิชา และจะต้องมีนักเรียน นักเรียนนั้นก็เป็นส่วนสำคัญเหมือนกัน เพราะว่าถ้าเป็นนักเรียนที่ตั้งใจที่จะเรียน สมชื่อว่าเป็นนักเรียน ก็หวังได้ว่ากิจการของโรงเรียนจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี...
- ...สำหรับครูนั้นต้องทำตัวให้เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่เชื่อใจของนักเรียนเหมือนกัน ข้อแรกต้องฝึกฝนตนเองให้แตกฉานและแม่นยำชำนาญ ทั้งในวิชาความรู้และวิธีการสอน เพื่อสามารถสอนวิชาทั้งปวงได้โดยถูกต้อง กระจ่างชัด และครบถ้วนสมบูรณ์ อีกข้อหนึ่งคือต้องทำตัวให้ดี คือต้องมีและต้องแสดงความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์สุจริต ความสุภาพ ความเข้มแข็งและอดทน ให้ปรากฎชัดเจนเคยชินเป็นปรกติวิสัย...
- ...เพราะถ้าเป็นครู ลูกศิษย์จะต้องนับถือได้ ต้องวางตัวให้เหมาะสมที่จะเป็นครู ไม่ใช่วางตัวอย่างหนึ่ง แล้วมาสอนอีกอย่างหนึ่ง ลูกศิษย์เขาเอาอย่าง...
- ...นักการศึกษาเคยคิดกันว่า การให้ครูเป็นผู้สั่งสอนและแนะนำให้ศิษย์ทำตามนั้นอาจทำลายความคิดริเริ่ม ทำลายอิสรภาพของเด็ก และทำให้เด็กเป็นตัวของตัวเองน้อยลง เห็นกันว่าควรจะให้เด็กได้อิสรภาพในการคิดว่าการทำและเรียนรู้ด้วยตนเองมากๆ ข้อนี้ทำให้ผู้ที่เป็นครูจำนวนไม่น้อยอึดอัดใจ เพราะขัดกับใจจริงของตนเองที่รู้สึกอยู่ว่า เป็นครูแล้วต้องสอน บางคนก็เกิดความลังเลในใจ ไม่ทราบว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไรถูก ที่จริงคำว่าครูกับศิษย์นี้มีความหมายตายตัวอยู่แล้ว คือครูผู้สอน เป็นผู้แนะนำศิษย์ไปสู่ความรู้ ความดี ความฉลาดทั้งปวง ศิษย์ก็เป็นผู้เรียนรู้จากครู มีหน้าที่ที่จะต้องเรียนและเคารพเชื่อฟังครู ซึ่งเป็นผู้ให้วิชาความรู้แก่ตัว จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ธรรมดาเด็กจะต้องเรียนรู้ เมื่อครูไม่สอน ก็จะต้องเรียนรู้จากแหล่งอื่นและจากผู้อื่น ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่ผู้ที่สมควรเป็นครูเลย ทำให้เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อความรู้ที่ชอบที่ประกอบด้วยเหตุผลได้ง่ายๆ ผลร้ายจึงเกิดตามมาเป็นัญหาที่ทำให้ต้องขบคิดอย่างสหนักกันอยู่ในเวลานี้ เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องทำตัวให้เป็นครูที่แท้และต้องทำหน้าที่ครูให้จริง พยายามตั้งใจ พากเพียรสั่งสอนอบรมความรู้ ความคิด ความดีแก่ผู้เป็นศิษย์ให้เต็มกำลัง เพื่อช่วยให้ศิษย์ของท่านมีความรู้ ความคิด ความประพฤติที่ถูกต้องเป็นธรรมและเป็นทางสร้างสรรค์ ปัญหายุ่งยากทางการศึกษาและทางสังคมจักได้เบาบางลง...
- ...ผู้เป็นครูอย่างแท้จริง นับว่าเป็นบุคคลพิเศษ ผู้ต้องแผ่เมตตาและเสียสละเพื่อความสำเร็จความก้าวหน้า และความสุขความเจริญของผู้อื่นอยู่ตลอดชีวิต...
- ...ครูที่แท้นั้นเป็นผู้ที่ทำแต่ความดี คือต้องหมั่นขยันและอุตสาหะพากเพียร ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ต้องหนักแน่น อัดกลั้นและอดทน ต้องรักษาวินัย สำรวมระวังความประพฤติปฏิบัติของตนให้อยู่ในระเบียบแบบแผนที่ดีงาม ต้องปลีกตัวปลีกใจจากความสะดวกสบาย และความสนุกรื่นเริงที่ไม่สมควรแก่เกียรติภูมิของตน ต้องตั้งใจให้มั่นคง ต้องซื่อสัตย์ รักษาความจริงใจ ต้องเมตตาหวังดี ต้องวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคติ ต้องอบรมปัญญาให้เพิ่มพูนสมบูรณ์ขึ้น ทั้งด้านวิทยาการและความฉลาดรอบรู้ในเหตุผล รู้จักเหตุผล...
- ...ถ้าขาดครูแล้ว ความก้าวหน้าก็จะไม่มี จะมีแต่ความถอยหลัง เพราะว่าอนุชนรุ่นหลังจะมีความรู้น้อยในทางวิชาการและในทางความรู้ที่จะดำรงตนเป็นมนุษย์ จะมีแต่ความรู้และมีความประพฤติตามสันดานของผู้ที่เป็นพาล ดังนั้นหน้าที่ของครูก็คือหน้าที่ที่จะรักษาสิ่งที่ดีที่งาม...
- ...งานของครูนั้นเป็นงานพิเศษ ที่จะหวังผลตอบแทนเหมือนงานอื่นๆ ได้โดยยาก ผลตอบแทนที่สำคัญย่อมเป็นผลทางใจ ได้แก่ ความปิติชุ่มชื่นใจ ที่ได้ฝึกสอนคนให้ได้ดีมีความเจริญ...
- ...ความก้าวหน้านี้แบ่งเป็นความก้าวหน้าทางวัตถุและความก้าวหน้าทางด้านจิตใจ ย่อมทราบดีว่าการที่ครูจะหวังความก้าวหน้าทางวัตถุนั้นยากอยู่ ...แต่ความก้าวหน้าทางจิตใจจะมีมาก เพราะว่าครูที่มีจิตใจเป็นครูที่แท้ย่อมเป็นที่นับถือของลูกศิษย์ และครูคนหนึ่งๆ ก็มีลูกศิษย์เป็นจำนวนสิบ จำนวนร้อย จำนวนพัน การที่ได้สร้างให้ลูกศิษย์จำนวนมากนี้ให้มีความรู้และเป็นมนุษย์ที่ดีที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อโลก...
- ...ความเป็นครู หมายถึง การมีความรู้ดีประกอบด้วยหลักวิชาที่ถูกต้องแน่นแฟ้นและแจ่มแจ้งแก่ใจ รวมทั้งคุณความดีและความเอื้ออารี ปรารถนาที่จะถ่ายทอดเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้มีความรู้ความเข้าใจที่ดีด้วย ความแจ่มแจ้งแน่ชัด ย่อมทำให้สามารถส่องแสดงความรู้ออกมาให้เข้าใจตามได้โดยง่าย ทั้งในการปฏิบัติงานย่อมทำให้ผู้ร่วมงานได้เข้าใจโดยแจ่มชัด...
- ...ความเป็นครูนั้นประกอบขึ้นด้วยสิ่งที่มีคุณค่าหลายอย่าง อย่างหนึ่งได้แก่ ปัญญา...อย่างหนึ่งได้แก่ ความดี อีกอย่างหนึ่งได้แก่ ความสามารถ ที่จะถ่ายทอดความรู้ดีของตนเองไปยังผู้อื่น...
- ...ถ้าพูดถึงว่าครูต้องสอน ครูก็ไม่ใช่เรียนจากลูกศิษย์ ลูกศิษย์ต้องเรียน ไม่ใช่สอนครู ข้อนี้ขอขยายความ และขอให้เข้าใจว่า ไม่ใช่เด็กหรือผู้ที่เป็นลูกศิษย์จะต้องราบคาบกับครู หรือครูจะต้องกดหัวลูกศิษย์ไม่ให้มีความคิดริ่เริ่มใดๆ เลย แต่ว่าหมายถึงว่า ครูที่ดีมีความรู้อะไร ต้องแผ่ไปหมด ความรู้ทั้งวิชาการและธรรมะ คือความเมตตา ต้องแผ่ให้ลูกศิษย์หมด ไม่ใช่มานั่งดูเขาสาธิตว่าลูกศิษย์เป็นยังไง แล้วก็มาถามเขา...
- ...ผู้เป็นครูนั้นจะต้องมีจิตใจสูง...ใช้คำว่าครูนั้นดูเหมือนต่ำกว่าคำว่าอาจารย์ อาจารย์นั้นดูท่าทางเป็นผู้ที่มีความรู้สูงกว่า มีฐานะสูงกว่า แต่ความจริงคำว่า ครู นั้น เป็นคำที่สูงยิ่ง เพราะถือเป็นผู้ที่ได้รับการเคารพบูชาได้...ครูเป็นเหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นถ้าผู้ใดเป็นครูแล้วและทำตัวอย่างที่ดี...ก็จะยิ่งเป็นผลดีใหญ่...
ผมคิดว่าผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า "บริบท" ของไทยคืออะไร เราเคารพครูและบูชาครูอย่างที่สุด เราสอนทั้งวิชาวิทยาการและคุณธรรมเสมอ.... ปัญหาคือครูที่แท้จริงกำลังท้อแท้อยู่หรือไม่ เราจะมีส่วนในการช่วยท่านอย่างไร....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น