บันทึกนี้ขอสรุปเกี่ยวกับ "ธุรกิจพอเพียง" ที่เราได้เรียนรู้จากท่าน โดยกำหนดไว้ในความหมายของเรา และให้ทุกกลุ่มเรียนยึดเอานิยามศัพท์เหล่านี้ เป็นแนวทางในการสื่อสารกับนิสิตผู้เรียน
ธุรกิจพอเพียงคืออะไร
"ธุรกิจพอเพียง" หมายถึง กิจกรรมการสร้างผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรม หรือการแปรรูปผลิตภัณฑ์ แล้วนำมาขายเพื่อสร้างรายได้ โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอน มีองค์ประกอบสำคัญ ๓ ประการ ได้แก่ ผู้ประกอบการ บริษัท และรายได้ โดยผู้ประกอบการมีการร่วมทุนกัน ดำเนินกิจกรรมร่วมกัน และมีการแบ่งปันรายได้กัน
"กิจกรรมธุรกิจพอเพียง" หมายถึง กิจกรรม "ธุรกิจพอเพียง" ของกลุ่มนิสิตที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชา ๐๐๓๒๐๐๕ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนิสิตเป็นผู้ประกอบการ มีกลุ่มนิสิตร่วมกัน ๕ - ๒๐ คน ดำเนินกิจกรรมกลุ่มในลักษณะคล้ายบริษัท เพื่อสร้างรายได้ภายใต้ข้อกำหนดที่อาจารย์ผู้สอนกำหนด เช่น ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา ๓ เดือน ต้องจัดทำสื่อเพื่อนำเสนอกระบวนการดำเนินการ และทำบัญชีแสดงกำไร-ขาดทุน หน้าชั้นเรียนและในงาน "ตลาดนัดพอเพียง" เป็นต้น วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดของกิจกรรมธุรกิจพอเพียง คือ ให้นิสิตได้ฝึกประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
"ตลาดนัดพอเพียง" หมายถึง งานตลาดนัดขายสินค้านวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จาก "กิจกรรมธุรกิจพอเพียง" จัดขึ้นโดยสำนักศึกษาทั่วไปร่วมกับชมรมตามรอยเท้าพ่อและชมรมต้นกล้าพันธุ์ดี ณ พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้และฝึกทักษะการดำเนินชีวิต ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
กิจกรรมธุรกิจพอเพียงทำอย่างไร
อาจารย์ผู้สอนจะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต และเป้าหมายความสำเร็จ ของการดำเนิน "กิจกรรมธุรกิจพอเพียง" ตามแต่ท่านเห็นสมควรว่าเหมาะสมกับผู้เรียน สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ปัจจุบัน นิสิตแต่ละกลุ่มซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการ จะต้องรวมกลุ่มกันคิดและสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์อย่างน้อย ๑ อย่าง เพื่อนำไปขายสร้างรายได้ โดยต้องไม่ร่วมลงทุนกันมากเกินไป (ไม่ควรเกินคนละ ๒๐๐ บาท) นิสิตควรแบ่งขั้นตอนการดำเนินงานออกเป็น ๓ ระยะ ได้แก่
- เขียนแผนธุรกิจ คือ คิดแผนและเขียนแผนลงในกระดาษ ว่า จะทำอะไร อย่างไร ใช้งบประมาณเท่าใด ใช้เวลาเท่าใด จะขายให้ใคร ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ราคาเท่าไหร่ ฯลฯ ... เมื่อเสร็จขั้นนี้ ควรนำมาเสนออาจารย์ผู้สอนให้พิจารณาเห็นชอบก่อนการดำเนินการขั้นต่อไป
- ลงมือทำตามแผนธุรกิจ คือ การลงมือสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์หรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการขายผลิต สร้างรายได้ ซึ่งต้องมีการทำบัญชีรับจ่ายอย่างละเอียด
- ขั้นการถอดบทเรียน สรุป และนำเสนอผลงานในงาน ซึ่งอาจารย์ผู้สอนจะเป็นผู้ประเมินผลหรือกำหนดวิธีการประเมิน
ลักษณะเด่นบางประการของ "ธุรกิจพอเพียง"
ต่อไปนี้คือ ลักษณะสำคัญของนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ ในการทำธุรกิจพอเพียง ที่นิสิตควรจะทราบก่อนจะคิดแผนธุรกิจ
- ไม่ใช่ธุรกิจที่ส่งเสริมอบายมุข เช่น ขายเหล้า ขายบุหรี่ ขายอาวุธ ฯลฯ ควรเป็นสิ่งที่ส่งเสริมสังคมไปในทางที่ดี
- ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสังคมให้เห่อไปกับคุณค่าเทียมและทุนนิยม เช่น ขายผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม เครื่องประดับหรือแฟชั่นแพง ๆ ฯลฯ ควรเป็นกิจกรรมที่สิ่งเสริมสังคมให้เห็นความสำคัญของคุณค่าแท้ของผลิตภัณฑ์ โดยเน้นคุณภาพและราคาที่เป็นธรรม
- ไม่ใช่กิจกรรมลักษณะซื้อมาขายไป เป็นผู้ค้าคนกลาง ควรต้องสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง
แบบไหนที่เรียกว่าสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม
ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่นิสิตจะสร้างขึ้น อาจจัดแบ่งลำดับของการคิดสร้างสรรค์ ได้โดยเทียบเคียงกับทฤษฎีสร้างสรรค์ของ ศาสตราจารย์ กิลฟอร์ด (Guilford) นักจิตวิทยาชาวอเมริกา ซึ่งเสนอมาไว้ตั้งแต่ 1967 เป็น ๔ ระดับ ได้แก่
- ระดับลอกเลียน (Duplicate) คือซ้ำเดิมกับสิ่งที่มีคนเคยทำมา ซึ่งรวมถึงสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นทางอินเตอร์เน็ตด้วย
- ระดับต่อเนื่อง (ต่อยอด ขยาย Extension)
- ระดับสังเคราะห์ (Synthesis) คือการสังเคราะห์เอาคุณสมบัติต่าง ๆ ของสิ่งที่มีอยู่ มาสร้างเป็นสิ่งใหม่ โดยใช้ความรู้ที่เคยมีเคยทำมาแล้ว
- ระดับสร้างนวัตกรรม (Innovation) คือการสร้าง สิ่งใหม่จากความคิด จิตนาการ และความรู้ของตนเองขึ้นมา
หรือจะมองอีกอาจมองอีกมุมของการประดิษฐ์ ได้ดังนี้ครับ สิ่งที่สร้างสรรค์คือ
- สิ่งใหม่ไม่เคยมีใครทำ
- หากไม่ใหม่ แต่ถ้าดีกว่าเดิมก็โอเค
- ถ้าไม่ใหม่ ไม่ดีกว่าเดิมแต่ราคาต้นทุนถูกกว่าเดิมก็ได้ หรือ
- ถ้าไม่ใหม่ ไม่ดีกว่าเดิม ราคาต้นทุนก็ไม่ถูกลง แต่เป็นการพึ่งตนเองมากขึ้น หรือทำด้วยตนเอง ด้วยวัสดุในพื้นที่ของตนเอง ก็ถือว่าควรส่งเสริม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น