ถอดบทเรียนตนเอง "คิดแบบอ่างน้ำ"
หลังเบรคเช้า เรากลับมาทำกิจกรรม "มองเพื่อนครู" ด้วยวิธีการคิดเชิงระบบ "คิดแบบอ่างน้ำ" (ผมเรียนรู้มาจาก อ.ชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ อ่านได้ที่นี่ครับ)... แต่ไม่ได้นำ การ "คิดแบบอ่างน้ำ" มาใช้ตรงๆ แต่นำมา "พาคิด" ให้ครูได้ "ฝึกคิดแบบอ่างน้ำ" โดยใช้กิจกรรม "กระดาษ 4 พับ จับจุด" ดังนี้ครับ
- พับกระดาษออกเป็น 4 คอลัมน์ 3 แถว แล้วให้ทุกคนคิดและเขียน ตาม "คำถาม" ดังนี้
- เริ่มจากชวนให้ทุกท่านจินตนาการถึง "หน้าของครู" ที่โรงเรียนของตนเองทีละคนๆ จินตนาการให้เห็นภาพ (กระบวนกรต้องไม่เร่งรีบ ค่อยๆ นำให้ทุกคนจินตนาการเห็นภาพจริงๆ) สังเกตความรู้สึกของตนเองเมื่อเห็นมโนภาพของครูแต่ละคนๆ
- แล้วให้ครูลองทดลองแบ่งหมวดหมู่ครูออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ครูที่ "ไม่เข้าใจ แต่ไม่ทำ" "ไม่เข้าใจ แต่ยังช่วยทำ" และ "ทั้งเข้าใจ และลงมือทำ" แล้วเติมชื่อ (ในกรณีที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใส่เป็นสัญลักษณ์ รหัส หรือตัวย่อได้) ยองครูแต่ละประเภทลงในแต่ละแถว ในคอลัมน์ที่ 2 ดังรูปด้านบน
- คอลัมน์ที่ 3 ให้เติมพฤติกรรมของครูในแต่ละแถว
- กลับมา คอลัมน์ที่ 1 ให้เขียนถึง สาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้ครูในคอลัมน์ที่ 2 มีพฤติกรรมตามคอลัมน์ที่ 3
- (เช่นเดิมครับ) คอลัมน์ที่ 4 เป็นหน้าที่ของเพื่อนๆ กัลยาณมิตร โดยยึ่นไปข้างๆ รอบๆ ให้เพื่อนคิดและเขียน ถึง แนวทางการ "ดำเนินการ" เพื่อให้ดีขึ้น สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ให้ดีขึ้นยิ่งไปอีก
- ความจริง "กระดาษสี่พับ จับจุด" มีเป้าประสงค์สำคัญคือ ช่วยกันสำรวจว่า ใครคือครูแกนนำ (เข้าใจ และทำ) ใครคือครูกลุ่มเป้าหมายที่ต้องขยายผล (ไม่เข้าใจแต่ช่วยทำ) และใครคือครูที่ไม่เข้าใจและไม่ทำ (ถ้าเข้าใจจริงต้องทำแน่ ที่ไม่ทำเพราะไม่เข้าใจ) กลุ่มสุดท้ายยิ่งต้องหาวิธีการจำเพาะ ไม่ควรทอดทิ้ง.....แต่กลับต้องใช้ความจริงใจและให้โอกาส
- เราพับเก็บ "กระดาษ 4 พับ" ไว้ชั่วคราว แล้วทำกิจกรรม "ผู้นำสี่ทิศ" หรือ "สัตว์สี่ทิศ" อ่านรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมที่นี่ครับ
- ภาคบ่าย เน้นการ "แลกเปลี่ยนเรียนรู้" และ "ปรึกษาหารือ" ระหว่างโรงเรียน "พี่เลี้ยง" และโรงเรียนในความดูแลของพี่เลี้ยง โดยการแบ่งกลุ่มแยกโรงเรียน ศรร.ปศพพ. คือ "พี่เลี้ยงแยกกัน" และมุ่งให้ได้แลกเปลี่ยน แบ่งปัน กันกับโรงเรียนในเครือข่ายของตนเอง
- BAR ของกิจกรรม ลปรร. กลุ่มตอนบ่ายนี้ ที่สำคัญคือ นำสิ่งที่ได้ทำดำเนินมาตั้งแต่ตอนภาคเช้า 3 อย่างมา เป็นเครื่องมือในการคิดพิจารณาร่วมกัน อันได้แก่ รูปแบบการขับเคลื่อนของโรงเรียนที่เตรียมมาจากบ้าน การสำรวจ "สต็อก" ครูว่า ที่มีอยู่เป็นลักษณะใดกลุ่มใดใครบ้าง และการพิจารณาคุณลักษณะนิสัยของทั้งตนเองและของโครงด้วยกิจกรรมสัตว์สี่ทิศ.... แต่เท่าที่ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการแลกเปลี่ยน กิจกรรมสัตว์สี่ทิศยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาคิดร่วมด้วย อาจเป็นเพราะตอนภาคเช้าเร่งกิจกรรม "แน่นเกิน" แต่ที่ดีมากๆ คือ การแลกเปลี่ยนกันอย่างไรไร้รูปแบบ ภาษาพื้นถิ่นเราเรียกว่า "โสเหล่" เอาสิ่งที่ทำแล้วเป็นปัญหามาว่ากันจริงๆ ...สำหรับกระบวนกรแล้ว นั่นคือสิ่งที่ดีครับ
- ผมสังเกตว่า มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนกันมาก คือเราชอบและมักคุยกัน "ปากเปล่า" เราชอบสนทนาเล่าเรื่อง แต่เราไม่ค่อย "เขียนเรื่อง" ให้คนอ่าน ... ความจริงคือเรายังไม่ชอบอ่าน....สิ่งนี้ไม่ใช่งานเล็ก เป็นงานปฏิรูปประเทศทีเดียวครับ....ทำให้เด็กไทยรักการอ่าน ..





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น