วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

ขับเคลื่อน ปศพพ. โรงเรียนเสือโก้กวิทยาสรรค์ อบจ.มหาสารคาม

วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๗ ผมและทีม ออกไปเยี่ยมโรงเรียนเสือโก้กวิทยาสรรค์ ตามคำเชิญของท่าน ผอ.ชัยยนต์ ผือโย ในโครงการพัฒนาศักยภาพครูตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่โรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายให้ครูรู้แล้วเข้าใจแนวทางการนำหลัก ปศพพ. มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ผมได้รับเกียรติอย่างสูงยิ่งจากท่าน ผอ. และคณะครู มีการแนะนำผมอย่างเป็นทางการ ซึ่งผมแจ้งให้ท่านทราบว่า มาคราวนี้ มาช่วยท่านในฐานะศูนย์พัฒนาวิชาการเพื่อการเรียนรู้ (CADL) และขอบพระคุณท่านที่ให้โอกาสและเกียรติอย่างสูงยิ่งนี้

ผมออกแบบกระบวนการเป็น ๔ ขั้นตอนในการฝึกอบรมครูในครั้งนี้ ในเวลา ๓ ชั่วโมง ได้แก่ ช่วงพาคิด ช่วงชวนคิด ช่วงบรรยาย และช่วงสะท้อนแลกเปลี่ยน  ดังนี้ (บันทึกไว้ที่นี่เผื่อมีประโยชน์)

ช่วงพาคิด

ผมนำเทคนิคของอาจารย์ฉลาด ปาโส (โรงเรียนเชียงขวัญพิทยาคม) มาใช้โดย แจกเอกสารดังรูปด้านล่าง


แล้วพาครูคิดและเขียนเติมลงไปเป็นขั้นตอน ดังนี้
  • เขียนเติมกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ตนเองทำเพราะชอบ ทำแล้วสำเร็จ ทำแล้วมีความสุข ทำแล้วภูมิใจ ทำแล้วอยากบอกต่อ ลงในรูปหัวใจตรงกลาง
  • เขียนขัั้นตอนและวิธีการทำสิ่งนั้น ทำอย่างไร ไว้ในวงกลมด้านบน
  • เขียนความรู้ที่จำเป็นต้องมี ต้องมีความรู้และทักษะอะไรบ้างถึงจะทำสิ่งนั้นได้ดีและสำเร็จ ลงในวงกลมด้านซ้ายของรูปหัวใจ
  • เขียนคุณธรรม หรือคุณสมบัติใด ที่จะทำให้การทำกิจกรรมนั้นสำเร็จได้ 
ตอนที่ดำเนินกิจกรรม ขณะที่คุณครูกำลังเขียน ผมเพิ่มบรรยายกาศให้คึกคักและผ่อนคลาย โดยเดินไปแอบอ่านข้อความที่อาจารย์ต่างๆ เขียน เช่น บางคนเขียนว่า ชอบอบรมลูก ฯลฯ ...เสียง ฮา ดังไปทั่วห้องทีเดียวครับ

ช่วงชวนคิด

หลังจากที่ทุกคนเขียนเสร็จแล้ว ขั้นตอนไปคือ ชวนคิดเชื่อมโยงกับ ปศพพ. คำถามคือ "ท่านคิดว่ากิจกรรมที่เราเพิ่งทำร่วมกันนี้ เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่อย่างไร"
... สำหรับครูแล้ว เรื่องนี้ไม่ยากเลยครับ ที่จะได้ข้อสรุปว่า
  • สิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ทำแล้วอยากบอกต่อ สิ่งที่ทำแล้วภูมิใจ  ทำแล้วไม่เกิดผลเสียต่อตัวเอง นั่นคือ สิ่งที่เรา "พอใจ" ซึ่งย่อมต้องเกิดมาจาก "ความพอเพียง" พอดี พอมี พอได้ อยู่ในกิจกรรมนั้นๆ แล้ว.....และถ้าถามว่า ทำไมถึงทำกิจกรรมนั้น ทุกคนย่อมมี "เหตุผล" ในการทำสิ่งนั้นเสมอ นี่คือ ห่วงเหตุผลใน ๓ห่วง๒เงื่อนไข
  • สิ่งที่เขียนในวงกลมด้านบนของรูปหัวใจ ที่บอกวิธีและขั้นตอนในการทำกิจกรรมนั้นๆ ซึ่งทำได้สำเร็จก็เพราะมีความ "พอประมาณ" กับตนเองนั่นเอง วิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสมนี่เองที่หมายถึงความพอประมาณในการทำสิ่งใดๆ  นี่คือห่วงพอประมาณ
  • วงกลมด้านล่างซ้ายที่เขียนเกี่ยวกับความรู้ ก็คือ เงื่อนไขความรู้
  • วงกลมด้านขวา ที่เขียนเกี่ยวกับคุณธรรมและปัจจัยที่ทำให้สำเร็จ ซึ่งต้องมีการวางแผนและตรวจสอบประเมินพัฒนา และป้องกันความผิดพลาดไว้ ก็คือ เงื่อนไขคุณธรรม และห่วงภูมิคุ้มกัน นั่นเอง 
ผมท้าทายว่า หากครูทุกคนนำกิจกรรมนี้ไปใช้กับนักเรียนติดต่อกันอาทิตย์ละ ๑ ครั้ง ทุกอาทิตย์ ติดต่อกัน ๓ เดือน นักเรียนจะเข้าใจ การนำ ปศพพ. ไปใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอน

และเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เร็วขึ้น และฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ของเด็ก ให้ลอง "ถอดบทเรียน" ในตาราง ๖ ช่อง ด้านล่าง



กิจกรรม
วิชาการ
พอประมาณ
มีเหตุผล
มีภูมิคุ้มกัน
คุณธรรม
















และวิเคราะห์ เหตุ->ผล หรือ ผลลัพธ์/ผลกระทบ หรือ ประโยชน์ต่อตนเอง และประโยชน์ต่อผู้อื่นใน ๔ มิติ ตามตารางด้านล่าง



ประโยชน์/ผลกระทบ
ต่อตนเอง
ต่อสังคม
ต่อเศรษฐกิจ
ต่อวัฒนธรรม
ต่อสิ่งแวดล้อม

















ช่วงบรรยาย 

ผมบรยายแบบเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เคยเขียนไว้แล้วที่นี่ครับ และเสนอเครื่องมือของ รศ.ดร.ทิศนา ซึ่งเคยเขียนไว้ที่นี่ ที่นี่ และที่นี่ ให้ครูฟังครับ ซึ่งเทคนิคสำคัญคือ ต้องสังเกตบริบทของครูที่นี่และยกตัวอย่างให้ใกล้เคียงที่สุด


ช่วงสุดท้ายคือ AAR

เป็นกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนนรู้ ว่าครูได้เรียนรู้อะไรบ้างจากวันนี้ และมีคำถามอะไรในใจที่ยังทำให้ไม่มั่นใจที่จะลงมือทำด้วยตนเอง

ผมแจกกระดาษ แล้วชวนครูทุกท่านพันเป็น ๓ ส่วน แล้วเขียนตอบคำถาม ๓ คำถาม คือ
  • ได้เรียนรู้อะไรในวันนี้ 
  • รู้แล้วคิดอย่างไร คิดอะไรต่อ 
  • จะนำไปปรับประยุกต์ใช้อย่างไร 
ครูสะท้อนหลายอย่างที่บอกว่า ครูเข้าใจและจะนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนของตน หลายคนบอกว่าเวลาน้อยไป  ผมคิดว่า กิจกรรมวันนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในระดับสูงทีเดียว

อย่างไรก็แล้วแต่ ผมเน้นย้ำกับท่าน ผอ. ว่า ปัญหาที่ผมเจอส่วนมาก ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่เป็นการไม่นำไปใช้จริงๆ มากกว่า..... ผมเน้นกับท่านว่า ขอเพียงกำชับให้ครูทุกคนนำกิจกรรม "พาคิด" "ชวนคิด" และ "ถอดบทเรียน" ตามตาราง ๖ ช่วง ที่นำมาใช้ในวันนี้ ไปใช้กับนักเรียน อย่างต่อเนื่อง รับรองว่า ทุกคนจะเข้าใจ ปศพพ. และผลการเรียนรู้ดีขึ้นแน่นอน....

จะติดตามผลกับท่านต่อไปครับ

๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒

๒๔ มกราคม ๒๕๕๗
ฤทธิไกร






ดูภาพทั้งหมดได้ที่นี่ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

12 หลักคิดพอเพียง จากปฏิทินประจำปี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ปราดแรกที่เห็นปฏิทินประจำปี ๒๕๕๗ ที่ได้รับแจก ผมประทับใจมาก ชื่นชมทั้งคนทำ คนคิด คนออกแบบ มากๆ นึกอยากนำมาบันทึกแลกเปลี่ยนสักวันแน่ๆ วันนี้โอกาสดี จึงนำมาแบ่งปันครับ ....

ผมพยายามสืบค้นดูว่า ใครนะที่สังเคราะห์คิดได้หลักแหลมเช่นนี้ พบว่า ปฏิทินเล่มนี้ได้อ้างอิงถึงคุณพีระนันท์ จันทร์แก้ว  แต่คุณพีระนันท์เองก็อ้างอิงแหล่งที่มาเป็น เว็บไซต์ www.daratham.net  ซึ่งผมพยายามสืบค้นก็หาไม่เจอว่าคนคิดจริงๆ เป็นใคร รวบรวมไว้ที่ไหน.....


ที่ประทับใจไม่ใช่เพราะความสวยงามหรือศิลปะดิไซน์ที่ดูดี .... เพราะผมเองไม่ค่อยมีสุนทรียศิลป์ห่างไกลการเสพศิลป์กินใจจากทางตาหูจมูกปาก...ส่วนใหญ่กิเลสในตัวมาจากใจคิดเป็นส่วนใหญ่

สิ่งที่ประทับใจคือ ความหมายและคุณค่าของ ความสื่อจากภาษาเกี่ยวกับ ๑๒ เทคนิคนำคิดให้ชีวิตพอเพียง ...

๑) พอใจ : พอใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยใจรัก อย่างถูกต้องเหมาะสม
    Having a Heart of Zeal but in Proper



 ๒) พอดี: รู้จักประมาณ รู้จักพอดี กระทำการสิ่งใดต้องระลึกรู้ด้วยปัญญา
              Living in Moderation



๓) พอมี : เลี้ยงชีวิตให้พอมีอยู่เสมอ ไม่ประมาท มีความมั่นคง
             Leading a Secure and Heedful


๔) พอกิน : รู้จักประมาณในการกิน การใช้ ให้พอกิน สมควรแก่กาย และจิตใจผ่องใส
                Balancing One's Body and Mind



๕) พอใช้ : รู้จักประหยัดอดออม ใช้จ่ายตามความเหมาะสม ไม่หลงในอบายมุข
               Practicing Mindful Spending




๖) พอเหมาะ : รู้จักไตร่ตรอง ตามเหตุผล มีใจเป็นกลางอย่างมีสติ
                    Knowing Equanimity



๗) พอรู้ : มีความเข้าใจและไต่ตรองให้พอรู้ ถึงอายตนะ 6 มีสติ ไม่ยึดติด ไม่ให้เกิดกิเลส
             Practicing Mindfulness and Non-Attactment


๘)  พอตัว : รู้จักก่อร่างสร้างงาน สร้างใจ ให้พอตัว เข้าใจในธรรมชาติ
                Cultivating Faith and Wisdom in the Law of Nature


๙) พอตน : ฉลาดคิด รู้จักพิจารณา รู้จักตัวเอง มั่นคงอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา
                Following Virtuous Conduct, Meditation, and Wisdom


 ๑๐) พออยู่ : ตั้งตนให้ถูกวิธี รู้จักดำรงชีวิตให้พออยู่ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ปัจจุบัน
                  Being in the Present


 ๑๑) พอควร : มีความเข้าใจในการดำเนินชีวิตตามเหตุปัจจัย กระทำการสิ่งใดอย่างพอสมควร ยึดมั่นอยู่ในธรรม
                    Knowing Principles, Knowing Causes



 ๑๒) พอให้ : รู้จักเป็นผู้ให้ ส่งผ่านความสุขในการดำรงชีวิตให้แก่ผู้อื่นได้เติบโตต่อไป
                  Giving, Being Kind, and Contributinf to Social Harmony



สรุป:

พอใจ : พอใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยใจรัก อย่างถูกต้องเหมาะสม
พอดี : รู้จักประมาณ รู้จักพอดี กระทำการสิ่งใดต้องระลึกรู้ด้วยปัญญา

พอมี : เลี้ยงชีวิตให้พอมีอยู่เสมอ ไม่ประมาท มีความมั่นคง 

พออยู่ : ตั้งตนให้ถูกวิธี รู้จักดำรงชีวิตให้พออยู่ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ปัจจุบัน

พอกิน : รู้จักประมาณในการกิน การใช้ ให้พอกิน สมควรแก่กาย และจิตใจผ่องใส

พอใช้ : รู้จักประหยัดอดออม ใช้จ่ายตามความเหมาะสม ไม่หลงในอบายมุข

พอเหมาะ: รู้จักไตร่ตรอง ตามเหตุผล มีใจเป็นกลางอย่างมีสติ

พอควร : มีความเข้าใจในการดำเนินชีวิต ตามเหตุปัจจัย กระทำการสิ่งใดอย่าง พอสมควร ยึดมั่นอยู่ในธรรม

พอรู้ : มีความเข้าใจและไตร่ตรองให้พอรู้ ถึงอายตนะ 6 มีสติ ไม่ยึดติด ไม่ให้เกิดกิเลส

พอตัว : รู้จักก่อร่างสร้างตัว สร้างใจ ให้พอตัว เข้าใจในธรรมชาติ ( ไตรลักษณ์ - อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา )

พอตน : ฉลาดคิด รู้จักพิจารณา รู้จักตัวเอง มั่นคงอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา

พอให้ : รู้จักเป็นผู้ให้ส่งผ่านความสุข ในการดำรงชีวิตชีวิตให้แก่ผู้อื่น เติบโตต่อไป

๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓

หากสังเคราะห์ด้วยคณิตศาสตร์ (ภาษาของวิทยาศาสตร์) โดยเปรียบเทียบกับ "เอกลักษณ์ของการบวก" ซึ่งก็คือ เลขศูนย์ "๐" ที่แม้จะไปบวกกับเลขอะไรไม่ได้ทำให้ค่าเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อไปต่อท้ายเลขอะไรจะทำให้เพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้สิบเท่าทันที  และ "เอกลักษณ์ของการคูณ" คือ หนึ่ง "๑" ซึ่งจะคูณกับเลขอะไรก็ไม่ทำให้ค่าใดๆ เพิ่มขึ้น แต่ถ้าเอาไปวางไว้ข้างหน้าเลขใด จะเพิ่มค่าให้เลขนั้นกว่าสิบเท่าทันทีเช่นกัน

ผมคิดว่ามีคำที่เป็น "เอกลักษณ์" ของความพอเพียงอยู่ ๒ คำ ได้แก่คำว่า "ดี" กับคำว่า "รู้"  สองคำนี้เมื่อเอาไปต่อท้ายหรือก่อนหน้าคำต่างๆ ที่อยู่ข้างหลังคำว่า "พอ" ที่อยู่ในปฏิทินนี้ จะได้องค์ประกอบของความพอเพียง

ใจดี มีดี อยู่ดี กินดี เหมาะดี รู้ดี ทำดี ฯลฯ
รู้ใจ รู้อยู่ รู้กิน รู้ทำ รู้ตัว รู้ตน รู้ใช้ รู้ให้ ฯลฯ
หรือท่านว่าไง....................